เครื่องปรับอากาศคืออะไร เดิมเครื่องปรับอากาศทำหน้าที่เป็นเครื่องที่ทำให้อุณหภูมิลดลง แต่ปัจจุบันนี้เครื่องปรับอากาศได้ถูกพัฒนาให้มีความสามารถในด้านอื่นๆอีกหลายด้านเช่นปรับอุณหภูมิตามความต้องการหรือมีการกรองอากาศ การป้องกันเชื้อราในห้อง มีระบบประหยัดไฟฟ้า มีระบบอื่นๆที่สนองความต้องการของผู้บริโภคอีกมากมาย ซึ่งทำให้เครื่องปรับอากาศในสมัยนี้มีคุณสมบัติต่างจากเครื่องปรับอากาศสมัยก่อนมากชนิดเทียบกันไม่ได้เลยทีเดียว
ชนิดของเครื่องปรับอากาศ ส่วนประกอบหลักของเครื่องปรับอากาศแยกออกเป็น2ส่วนคือ ตัวให้ความเย็นที่อยู่ภายในบ้าน (Indoor) และตัวคอมเพรสเซอร์ที่อยู่นอกบ้าน (Outdoor) ซึ่งทั้ง2ส่วนจะมีท่อเป็นตัวเชื่อมในการทำงาน โดยปกติแล้วทั้งตัวให้ความเย็นที่อยู่ภายในบ้าน (Indoor) และคอมเพรสเซอร์ที่อยู่นอกบ้าน (Outdoor) เป็นส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศแบบ Window Type และส่วนที่แยกออกมาเราเรียกว่า Single Split Type แต่ในส่วนของ Single Split Type ซึ่งมีหลายแบบด้วยกันจะขึ้นอยู่กับตัวให้ความเย็นที่อยู่ในบ้าน (Indoor) Window-Type เครื่องปรับอากาศแบบนี้เป็นชนิดที่ติดตั้งกับฝาผนังหรือรอบวงกบของหน้าต่าง
Wall-Mount Single Split Type เครืองปรับอากาศชนิดนี้ประกอบด้วย2ส่วนคือ ตัวให้ความเย็นที่อยู่ในบ้าน (Indoor) หรือระบบการระเหย ซึ่งจะติดอยู่กับฝาผนังและตัวคอมเพรสเซอร์ที่อยู่นอกบ้าน (Condenser) Wall-Mount Multi Split Type เครื่องปรับอากาศแบบ Multi Split เหมาะสำหรับห้องที่ต้องการความเย็นมากกว่า1ห้องขึ้นไป โดยใช้คอมเพรสเซอร์ที่อยู่นอกบ้านเพียงตัวเดียว เชื่อมกับตัวให้ความเย็นที่อยู่ในบ้าน2-3เครื่อง เครื่องปรับอากาศชนิดนี้จะใช้เนื่อที่น้อยในการติดตั้ง Floor Standing Type เครื่องปรับอากาศชนิดนี้ สามารถติดตั้งได้กับทุกสถานที่ๆมีเพดานสูงและเนื่องจากการต่อท่อเชื่อมการทำงานที่ติดตั้งอยู่ในระดับต่ำ ทำให้เครื่องปรับอากาศชนิดนี้เหมาะสำหรับการใช้งานในภัตตาคารหรือสำนักงานต่างๆ
ระบบทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศ ถ้าเราลองนำแอลกอฮอลล์มาเช็ดที่แขน เมื่อแอลกอฮอลล์ระเหยจะรู้สึกเย็น เพราะเมื่อแอลกอฮอลล์ระเหยจะดูดซับความร้อนออกไปด้วย ทำให้อุณหภูมิบริเวณนั้นลดลง เครื่องปรับอากาศก็ทำงานด้วยวิธีเดียวกันนั่นเอง คือการทำให้ดูดซับความร้อนในห้องออกไป พร้อมกับการเปลี่ยนสถานะของสสาร ด้วยหลักการเดียวกันกับการระเหยของแอลกอฮอลล์
ส่วนประกอบหลักของการทำความเย็น เพื่อให้เกิดความเข้าใจในระบบการทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศเราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้และเข้าใจส่วนประกอบทั้ง4ส่วนหลักๆก่อนดังนี้ 1.Compressor มีบทบาทสำคัญในการทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศโดยความเย็นจะถูกดูดจากการหมุนเวียนของระบบทำความเย็น 2.Condenser เป็นตัวที่แยกออกมาและทำหน้าที่นำความร้อนออกจากระบบทำความเย็น 3.Evaporator (ระบบการระเหย) เป็นตัวดูดซับความร้อนในระบบการทำความเย็น 4.Tube เป็นตัวลดความดันของตัวทำความเย็น
BTU คืออะไร บีทียู (BTU : British Thermal Unit) คือ หน่วยที่ใช้วัดปริมาณความร้อนหน่วยหนึ่ง (ซึ่งนิยมใช้มากในระบบปรับอากาศ) สามารถเทียบได้กับหน่วยแคลลอรี่หรือหน่วยจูลในระบบสากล โดยที่ความร้อน 1BTU คือปริมาณความร้อนที่ทำให้น้ำ 1ปอนด์มีอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง 1องศาฟาเรนไฮต์ สำหรับเครื่องปรับอากาศนั้นจะวัดกำลังความเย็นหรือความสามารถในการดึงความร้อน (ถ่ายเทความร้อน) ออกจากห้องปรับอากาศในหน่วยบีทียูต่อชั่วโมง (BTU/hr) ซึ่งเทียบเท่ากับหน่วยวัตต์ในระบบสากลเช่น เครื่องปรับอากาศ 12,000 บีทียูต่อชั่วโมง หมายความว่าเครื่องปรับอากาศเครื่องนั้นมีความสามารถในการดึงความร้อนออกจากห้องปรับอากาศ 12,000 บีทียู ภายในเวลา 1ชั่วโมง แต่โดยทั่วไปในท้องตลาดมักใช้คำว่าบีทียูต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นการใช้ที่ผิดหลักวิชาการแต่ว่าเป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไป
EER คืออะไร อีอีอาร์ ( EER : Energy Efficiency Ratio) หรืออัตราส่วนประสิทธิภาพของเครื่องปรับอากาศ คือค่าที่ใช้วัดประสิทธิภาพในการใช้พลังงานของเครื่องปรับอากาศว่าดีหรือไม่อย่างไร มีหน่วยเป็น BTU/W ดูจากหน่วยของค่า EER นี้แล้วก็คงเข้าใจได้โดยง่ายว่าค่า EER นั้นก็คืออัตราส่วนของความเย็นที่เครื่องปรับอากาศสามารถทำได้จริง (Output) กับกำลังไฟฟ้าที่เครื่องปรับอากาศนั้นต้องใช้ในการทำความเย็นนั้น (Input) เครื่องปรับอากาศที่มีค่า EER ยิ่งสูงก็แสดงว่าเครื่องปรับอากาศเครื่องนั้นยิ่งมีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานที่ดี นั่นก็คือเป็นเครื่องปรับอากาศที่ช่วยคุณประหยัดไฟฟ้าหรือค่าไฟได้มากนั่นเอง
ที่มา http://www.kitchaair.com
|